วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ATCS 1500 MAX จาก PROTON AXLE RACING TEAM

เรามาดูรถอินเตอร์กันหน่อย คันนี้เป็นรถจากแดนเสือเหลือง มาเลเซีย ซึ่งเข้าแข่งขันในรายการ Asian Festival Of Speed's (AFOS) ในรุ่น Asian Touring Car Super 1500 Max Challenge (1500 Max) ในชื่อทีม PROTON AXLE RACING TEAM โดยมีนักแข่ง F1 คนเดียวของประเทศมาเลเซีย Alex Yoong มาเป็นผู้ดูแลทีม

ซึ่งรุ่น 1500 Max นี้เพิ่งจะเริ่มการแข่งขันในปีนี้เป็นปีแรก ซึ่งจะรวมรถขนาดเล็กหลากหลายรุ่น หลากหลายยี่ห้อ ที่มีความจุต่ำกว่า 1,599 ซี.ซี. อ๊ะ... ไม่คุ้นล่ะสิครับ เพราะส่วนใหญ่เราจะได้ยินกติกาที่กำหนดให้ไม่เกิน 1,500 ซี.ซี. เค้าถึงตั้งชื่อว่า 1500 Max ไง แปลว่า สูงสุดของ 1500

PROTON SATRIA NEO + AERO PART R3 สวย ดุ จากโรงงาน

ในบ้านเราคงจะคุ้นเคยกับ PROTON SATRIA NEO ซะมากกว่า กับรถคอมแพ็กต์คันเล็กน่ารัก ซึ่งจะมาทำรถแข่งก็คงจะดูน่ารัก ไปหน่อย ต้องเสริมความดุให้สมกับเป็นรถแข่งซะหน่อย โดยไปเอาชุดพาร์ทรอบคัน จากรถรุ่นเดียวกันนี้แต่เป็นรุ่นที่มีชื่อว่า PROTON SATRIA R3 ซึ่งเป็นรถที่มีเครื่องใหญ่กว่า มีพาร์ทมารอบคันจากโรงงาน ซึ่งมีกันชนหน้าและหลัง สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง ที่แตก ต่างไปจากรุ่น PROTON SATRIA NEO

เมื่อจัดการกับภายนอกแล้ว ภายในก็ต้องทำให้พร้อมแข่งด้วย รื้อภายในออกให้หมด ให้เหลือแต่โครง จากนั้นทำการเชื่อมตะเข็บตัวถัง เพิ่มเติม หรือที่เราเรียกกันว่า สปอตตัวถัง ซึ่งรถเดิมๆ มาโรงงานจะเชื่อมตัวถังเป็นจุดๆ ห่างกันพอสมควร เอาแค่พอแข็งแรง ในระดับ หนึ่งเพราะต้องคำนึงถึงความนุ่มนวลของตัวรถด้วย ถ้าตัวถังแข็งมากๆ ความนุ่มนวลก็จะหายไป แต่พอมาเป็นรถแข่งแล้ว ต้องแข็งสุด ๆ

เท่านั้นยังไม่พอ ยังต้องเสริมโรลเคจเข้าไปอีก ค้ำยันตัวถังไม่ให้บิด และไม่ยุบเมื่อเกิดอุบัติเหตุ จากนั้นค่อยใส่อุปกรณ์ภายในอื่นๆ ที่ต้อง ใช้ อย่างเบาะสำหรับแข่งขัน ใช้ของ RECARO รุ่น SG และเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุดของ SPARCO ที่ด้านข้าง ซึ่งตอนนี้ไม่มีเบาะ ซะแล้ว ก็เป็นตำแหน่งติดตั้งถังดับเพลิง ซึ่งควบคุมด้วยไฟฟ้า มีสวิตช์สั่งให้ทำงานอยู่ 2 จุด คือบริเวณคอนโซล และบนฝากระโปรงหน้า ส่วนสายน้ำยาดับเพลิงต่อไปยังห้องเครื่อง ห้องโดยสาร และถังน้ำมัน ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยในการติดตั้งถังดับ

เบรกมือเอาออก แล้วใส่แทนที่เข้าไปด้วยวิทยุสื่อสาร ที่เอาไว้ติดต่อกับทางพิต โดยกดปุ่มบนพวงมาลัยก็พูดคุยกับทางพิตได้ บอกอาการ รถ หรือแจ้งทางพิตให้เตรียมแก้ไขรถ เมื่อรถมีอาการผิดปกติ และทางพิตเองก็สามารถรายงานข้อมูลให้กับนักแข่งได้ อย่างเช่น เวลาต่อ รอบ อันดับของรถแข่ง และระยะห่างของคู่แข่งคันอื่น นักแข่งจะได้วางแผนได้ว่าจะขับอย่างไร
คอนโซลยังใช้เป็นของเดิม แต่ปิดช่องแอร์และช่องวิทยุด้วยแผ่นคาร์บอน แล้วติดตั้งสวิตช์ต่างๆ รวมไปถึงสวิตช์ตัดไฟเข้าไปแทน จอของคันนี้ใช้ MOTEC ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น DATA LOGING ซึ่งจะเก็บข้อมูลต่างๆ ของรถแข่ง เครื่องยนต์ วิธีการขับ แรง G ความเร็ว และอื่นๆ ซึ่งจะมีเซ็นเซอร์วัดแรง G อยู่ใกล้ๆ กับวิทยุสื่อสาร และเสาอากาศ GPS ที่จะเป็นตัวจับไลน์การขับของนักแข่ง ระบบนี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับพัฒนารถแข่งและนักแข่ง

เครื่อง 1,599 ซี.ซี. ชิ้นส่วนเดิมๆ แต่โมฯเพิ่ม

ตามกติกาของรุ่น 1500 Max ให้ใช้เครื่องยนต์ที่มีความจุต่ำกว่า 1,599 ซี.ซี. ซึ่งเครื่องยนต์ตัวนี้รู้กันทั่วไปว่าเป็นเครื่อง 1,600 ซี.ซี. แต่ความจุที่แท้จริงไม่ถึง 1,600 ซี.ซี. เพราะฉะนั้นก็ลงแข่งได้โดยไม่ผิดกติกา แต่จะเอาเครื่องเดิมๆ ไปสู้ก็คงจะไม่ไหว มีการโมดิฟาย เพิ่มเติม แต่ทางทีมไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดในการโมดิฟายเครื่องยนต์ บอกเพียงแค่ว่าทุกชิ้นส่วนเป็นของเดิมทั้งหมด ส่วนระบบ ส่ง กำลัง เปลี่ยนมาใช้เกียร์ของมิตซูบิชิ ที่มีอัตราทดดีกว่า

ช่วงล่าง CUSTOM MEAD BY D2 RACING
ช่วงล่างคันนี้ดูเผินๆ อาจจะคิดว่าธรรมดาๆ ก็แค่เปลี่ยนช็อคอัพเป็นของ D2 Racing แต่จริงๆ แล้ว ช็อคอัพ D2 ชุดนี้เป็นแบบสั่งทำ พิเศษสำหรับแข่งขันโดยเฉพาะ หน้าตาไม่แตกต่างจากของที่ขายอยู่ทั่วไป แต่มีดีที่ข้างใน โดยวาล์วด้านในถูกเซ็ตอัพให้เหมาะกับการ แข่งขันเพียงอย่างเดียว


ระบบเบรกคันนี้ก็เปลี่ยนใหม่ทั้งระบบ โดยปกติรถยนต์ทั่วๆ ไปจะเป็นเบรกแบบวงจรไขว้ มีหม้อลมช่วยผ่อนแรง แต่คันนี้เอาหม้อลม ออก เพราะหม้อลมเป็นตัวที่ทำให้นักแข่ง ไม่สามารถคุมน้ำหนักเบรกได้ดังใจ อยากจะเหยียบแค่ 50% หรือ 80% ก็ทำไม่ได้
เพราะหม้อลมมีระบบสุญญากาศมาควบคุมวาล์วอีกที ทำให้แรงที่ส่งไปยังแม่ปั๊มหยาบขึ้นกว่าไม่มีหม้อลม แต่เมื่อไม่มีหม้อลมเบรก ก็หนักขึ้น ต้องใช้แรงมากๆ ในการเหยียบ รถที่ใช้บนถนนไม่ควรเอาอย่าง ไม่ใช่ว่าเห็นรถแข่งไม่มีแล้วไปถอดออกบ้าง ระวังงานจะเข้า

และแม่ปั๊มก็เปลี่ยนมาเป็นแบบ 2 แม่ปั๊ม ซึ่งจะแยกวงจรเป็นหน้าหนี่งตัว และหลังหนึ่งตัว มีตัวปรับแรงดันระหว่างหน้าและหลัง ว่าจะ ให้จับมากน้อยต่างกันเท่าไร ส่วนคาลิเปอร์ใช้เป็นคาลิเปอร์แบบ 4 พอร์ต จาก Alcon กับผ้าเบรก Mintex Racing ล้อของคันนี้ใช้ของ Advanti ขอบ 17 นิ้ว กับยางสลิค Michelin ที่รถแข่งทุกคันจะใช้เหมือนๆ กัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น