วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ย้อนอดีต Bangsaen Thailand Speed Festival

ย้อนอดีต Bangsaen Thailand Speed Festival
7 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ ร่วมกันเปิดตำนานบทที่ 2 ของวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย
ในปี 2551 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย, จังหวัดชลบุรี, องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เทศบาลเมืองแสนสุขจังหวัดชลบุรี แล ะราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย (ร.ย.ส.ท.) จับมือร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์บทที่ 2 ของวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย กับมหกรรมการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการใหญ่แห่งปี BANGSAEN THAILAND SPEED FESTIVAL 2008
7 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ ได้ทำการผนึกกำลังร่วมกันเนรมิต ชายหาดบางแสน แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ให้กลายเป็นสนามแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล และตัวสนามที่ยาวที่สุดในประเทศไทยถึง 3,700 เมตร เพื่อรองรับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ ที่รวมนักแข่งชั้นนำของเมืองไทยไว้อย่างคับคั่ง รวมไปถึงรถที่ลงทำการแข่งขันในปีนี้กว่า 200 คัน โดยได้รวมเอาการแข่งขันรายการใหญ่ที่สุดในประเทศไทยไว้ถึง 2 รายการด้วยกัน คือ Super Car Thailand 2008 และรายการ Toyota One Make Race ซึ่งเปิดศึกความมันส์ไปในวันที่ 7, 8 และ 9 พฤศจิกายน 2551 และได้รับความสำเร็จอย่างสูง
การถือกำเนิดของตำนานบทแรก
ชัยชนะของมอเตอร์สปอร์ตแห่งสยาม
แรงบันดาลใจจากครั้งอดีตในปี พ.ศ. 2479 ณ สนามแข่งขันโมนาโคกรังด์ปรีซ์ ในทวีปยุโรป ซึ่งได้จัดการแข่งขันรถครั้งสำคัญ ที่ได้รวบรวมนักแข่งหลายเชื้อชาติ รวมถึงประเทศไทย โดยมี พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีระพงศ์ ภาณุเดช หรืออีกนามหนึ่งคือ พระองค์เจ้าพีระ ที่ลงแข่งขันในนาม 'ประเทศสยาม' ซึ่ง 'ธงไตรตงค์' ของประเทศไทยได้โบกสะบัดเหนือชาติอื่น กับการคว้าชัยในการแข่งขันนานาชาติครั้งประวัติศาสตร์ และพระองค์เจ้าพีระ ยังได้ลงทำการแข่งขันนานาชาติอีกหลายๆ ครั้ง จนได้รับรางวัลเกียรติยศจาก สมาพันธ์แข่งรถแห่งชาติอังกฤษ หรือรางวัล 'ดาราทอง' ถึง 3 ปีซ้อน จนได้รับการขนานนามว่า 'พีระ เจ้าดาราทอง'
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ทรงขับรถรอมิวลุส เข้าเส้นชัยที่ ลอนดอนกรังปรีซ์ สนามคริสตัลพาเลซเซอร์กิต
และจากชื่อเสียงที่สั่งสมข้ามน้ำ ข้ามทะเล มาจนถึงประเทศไทย จนรัฐบาลอยากจะให้มีการจัดการแข่งขันขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศสยาม โดยการ “ปิดถนนราชดำเนิน” เพื่อทำสนามแข่งขันเฉพาะกิจ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างก่อนการแข่งขัน “กรุงเทพกรังด์ปรีซ์ 2482” จะเริ่มขึ้น สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เกิดในทวีปยุโรป ทำให้การแข่งขันในครั้งนั้นถูกเรียกขานว่า 'Grand Prix that never runs' หรือ 'กรังด์ปรีซ์ ที่ไม่เคยมีการแข่งขัน'
และนั่นคือเหตุผลแห่งการจุดประกาย วงการมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย จนกระทั่งประเทศไทยได้มีสนามแข่งขันที่ได้มาตรฐานแห่งแรก และแห่งเดียว ที่ได้รับรองจาก สมาพันธ์กีฬาการแข่งขันรถยนต์นานาชาติ หรือ F.I.A ซึ่งนั่นก็คือ 'สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต' และได้มีการจัดการแข่งขันกันเรื่อยมา เพื่อเป็นการพัฒนานักแข่งในประเทศไทย จนทำให้ สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พัทยา และจังหวัดชลบุรี เป็นที่รู้จักของชาวไทย และชาวต่างประเทศในด้านมอเตอร์สปอร์ต ในประเทศไทยจวบจนปัจจุบัน
ตำนานบทที่ 2 ถือกำเนิด
มอเตอร์สปอร์ตสนามเฉพาะกิจ
จากความสำเร็จอย่างท่วมท้นในปี 2007 กับการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต ในประเทศไทยในรูปแบบสนามแข่งขันเฉพาะกิจแบบปิดเมือง ที่เนรมิตถนนเลียบชายหาดบางแสน เป็นสนามแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยความพร้อมของสภาพถนน ที่สามารถประกอบเป็นสนามแข่งขันที่มีมาตรฐาน ที่มีความยาวโดยรอบของสนามที่มากถึง 3,700 เมตร จากงบประมาณการลงทุนกว่า 70 ล้านบาท เพื่อสานต่อความฝันของคนไทย และผู้มีใจรักวงการมอเตอร์สปอร์ต ได้มีการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ถือกำเนิดขึ้นมา ภายใต้ชื่อการแข่งขัน อย่างเป็นทางการว่า BANGSAEN THAILAND SPEED FESTIVAL 2008
จากกระแสการตอบรับที่ดีจากหลากหลายวงการ ตั้งแต่นักแข่ง, ผู้สนับสนุน, หน่วยราชการ, สื่อมวลชน และ ประชาชนชาวจังหวัดชลบุรี ในปีนั้น ส่งผลให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเทศบาลเมืองแสนสุขได้บรรจุรายการ BANGSAEN THAILAND SPEED FESTIVAL ให้ถือเป็น หนึ่งในเทศกาลประจำปีของจังหวัดชลบุรี โดยจะมีการแข่งขันขึ้นใน สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน เป็นประจำทุกปี
จนถึงปี 2008 ซึ่งนับเป็นการสานต่อความสำเร็จ และเปิดบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ มอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย ตำนานหน้าที่ 2 โดยกองทัพนักแข่ง และรถแข่งชั้นแนวหน้าในประเทศไทย ในรายการ Super Car Thailand 2008 มาร่วมทำการแข่งขันเป็นรายการหลัก โดยมีรุ่นที่เป็นไฮไลต์ ให้ติดตามชมตลอดการแข่งขัน ตั้งแต่รุ่น Super Car และรุ่น Super 2000 และเอาใจสิงห์รถปิกอัพด้วยรุ่น Super Commonrail 2500 CC. รุ่นที่รวบรวมเอา รถปิคอัพที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาภายในบ้านเรา ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยด้วยฝีมือ และเทคโนโลยีการผลิตที่เทียบเท่าสากล จนเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ มาร่วมลงทำการแข่งขันกันในปีนั้น
เนรมิตชายหาดบางแสน ให้กลายเป็นแทร็คมาตรฐาน ที่มีความยาวถึง 3,700 เมตร
นอกเหนือจากรายการหลัก เทศกาล BANGSAEN THAILAND SPEED FESTIVAL ยังได้รวมเอาการแข่งขัน รายการ Toyota One Make Race เข้ามาสร้างสีสันให้การแข่งขันสนุกสนานยิ่งขึ้น ถึง 3 รุ่นด้วยกัน คือรุ่น Yaris One Make Race, Vios One Make Race และรุ่น Vios One Make Race Lady เข้ามาร่วมกันเปิดตำนานหน้าที่ 2 ของวงการมอเตอร์สปอร์ตประเทศไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นโดยรอบสนามแข่งขัน วึ่งเป็นกิจกรรมเสริมความเร้าใจ อาทิ ขบวนรถ Classic Car และ Exotic Car ที่ต่างมากระตุ้นความมันส์ให้เกมส์การแข่งขันดุเดือดเร้าใจมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งกิจกรรมความบันเทิงในบริเวณ แหลมแท่น และริมหาด ที่เตรียมต้อนรับแฟนๆ วงการมอเตอร์สปอร์ตบ้านเรา ที่จะเริ่มต้นความมันส์กันตั้งแต่ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีเป็นต้นไป
เส้นทางของ BANGSAEN THAIALND SPEED FESTIVAL ยังคงไม่ได้สิ้นสุดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะนี่ไม่ใช่แค่เพียง “ฝัน” แต่เป็นการ ปลุกวงการมอเตอร์สปอร์ตประเทศไทย ให้ “ตื่น” ขึ้นมา พร้อมที่จะร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรค เพื่อก้าวไปข้างหน้า
เตรียมตัวกันให้พร้อม!... ธงตราหมากรุกกำลังจะโบกสะบัดขึ้นอีกครั้ง ณ ชายหาดบางแสน แหลมแท่น เขาสามมุข จังหวัด
ชลบุรี ภายใต้ชื่องาน 'BANGSAEN THAILAND SPEED FESTIVAL 2009'
เยี่ยมชมเว็บไซท์ของ BANGSAEN THAILAND SPEED FESTIVAL ได้ที่ http://www.bangsaengrandprix.org/ ครับ
///////////////////////////////
ขอบคุณที่มา : motortrivia

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น