วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

Man & Moter : ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ

ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ
"นักขับมอเตอร์สปอร์ต ผลงานต้องคงเส้นคงวา"
ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ "นักขับมอเตอร์สปอร์ต ผลงานต้องคงเส้นคงวา"
"ฟอร์มูล่า บีเอ็มดับเบิลยู เอเชีย" ฤดูกาลแรก เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ปลุกเร้าให้เยาวชนในภูมิภาคเอเชีย ได้ก้าวเข้าสู่สนามแข่งขันในระดับ สากล ซึ่งณัฐพงษ์ ห่อทองคำ ดาวรุ่งนักแข่งรถฟอร์มูล่า วัย 22 ปี คือนักแข่งสัญชาติไทยคนเดียว ที่เข้าร่วมแข่งขันรายการนี้ โดยหลังจากผ่าน มาแล้ว 4 สนาม ณัฐพงษ์ประกาศศักดายืนอยู่ ณ อันดับที่สี่ในตารางคะแนนรวมทั้งหมด
ทั้งนี้โอกาสของณัฐพงษ์ ที่จะขยับขึ้นติดหนึ่งในสามก็มากขึ้นไปอีก เมื่อเขาจะได้มาแข่งขันในสนามบ้านเกิด ณ สนาม พีระ เซอร์กิต ใน กลางเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ดังนั้นณัฐพงษ์จึงเป็นคนหนุ่มที่จะต้องเฝ้าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะไม่แน่อนาคตเขาอาจจะก้าวขึ้นยืนอยู่ในชั้นแนวหน้าระดับโลกก็ได้
ณัฐพงษ์ เริ่มต้นสัมผัสกับกีฬามอเตอร์สปอร์ตครั้งแรก จากการชักจูงของคุณพ่อด้วยการพาเขาไปฝึกขับ โกคาร์ต ขณะที่มีอายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น และนับแต่นั้นมา ณัฐพงษ์ได้ค่อยๆ ค้นพบพรสวรรค์ในการขับรถแข่งของเขาทีละน้อย โดยเริ่มจากการแข่งขัน โกคาร์ต จากนั้นเป็นซูเปอร์คาร์ต
ด้วยวัย 13 ปี ณัฐพงษ์ ก็เริ่มต้นแข่งขันรถฟอร์มูล่า (รถยนต์ที่นั่งเดี่ยว) ครั้งแรกในปี 1998 ที่เป็นการแข่งขันระดับภูมิภาคเอเชีย ที่เรียกว่า "เอเชี่ยนฟอร์มูล่า 2000"ในสังกัดของทีม AIM Motorsports ได้สองฤดูกาล โดยฤดูกาลแรกนั้นเขาครองอันดับที่สอง และมาประสบ กับความสำเร็จแรก ด้วยการครองแชมป์ได้ในฤดูกาลถัดมา จากนั้นณัฐพงษ์ก็ผกผันมาขับรถยนต์ทัวริ่งคาร์ ในประเทศไทยอีก 3 ฤดูกาล
ทีมแข่ง "3 มงกุฎ" ค้นพบพรสวรรค์ในการแข่งขันความเร็วของ ณัฐพงษ์ และได้ ทาบทามให้เขาร่วมทีมในการแข่งขัน Formula BMW Asian Championship ที่จัดขึ้นเป็นฤดูกาลแรกในปีนี้โดยทัวร์นาเมนต์ ดังกล่าว แผนกมอเตอร์สปอร์ตของบีเอ็มดับเบิลยูจัดขึ้น เพื่อใช้ในการ โปรโมตนักแข่งอายุน้อยที่มีพรสวรรค์ สำหรับก้าวเข้าสู่การแข่งรถฟอร์-มูล่า ในระดับนานาชาติที่ มีการแข่งขันสูงขึ้นในอนาคตของเยาวชนเหล่านี้
ก่อนหน้าที่จะเริ่มต้นการแข่งขัน ณัฐพงษ์ ได้รับชัยชนะส่วนตัวของเขามาก่อน ด้วยการได้รับเลือกจากแผนกมอเตอร์สปอร์ตของ BMW ที่มิวนิก ให้ได้รับทุนการฝึกอบรม การขับรถยนต์ฟอร์มูล่า ณ โรงเรียน ฝึกซ้อมการขับรถฟอร์มูล่าของ บีเอ็มดับเบิลยู ที่เมือง บาเลนเซีย ประเทศสเปน
โดยณัฐพงษ์เป็น 1 ใน 5 นักแข่งรุ่นเยาว์ที่ได้รับทุนการฝึกอบรม สำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ ซึ่งนอกเหนือไปจากเขาแล้วก็ยังมี นักขับจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และ ฟิลิป-ปินส์
"หากสังเกตในสนามแข่งจะพบว่า เฉพาะรถของนักขับที่ได้รับทุนการศึกษานี้ จึงจะได้สิทธิการขับรถฟอร์มูล่า BMW ที่มีการพ่นสีฟ้า-ขาว ซึ่งเป็นสีอย่างเป็นทางการของ บีเอ็มดับเบิลยู ฟอร์มูล่า ผมภูมิใจทุกครั้งที่ได้ประจำอยู่หลัง พวงมาลัยของรถยนต์สีฟ้า-ขาวคันนี้"
ในฐานะของนักขับที่ได้รับทุนนั้น ณัฐพงษ์บอกว่า "แน่นอนการที่ได้รับทุนจากแผนก มอเตอร์สปอร์ตของบีเอ็ม ดับเบิลยูนั้น ย่อมเป็นโอกาสที่ดี ในการพัฒนาอาชีพนักแข่งของผมสู่การเป็นมืออาชีพ ซึ่งความ สำเร็จของนักขับมอเตอร์ สปอร์ต คือ การรักษาความคงเส้นคงวาในเรื่อง ของผลงาน และการสั่งสมประสบการณ์ให้มากขึ้น สำหรับผมแล้วตอน นี้กำลังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากกว่า"
"แน่นอนว่าการที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเป็นมืออาชีพจากบีเอ็มดับเบิลยู มันทำ ให้ผมมีพื้นฐานที่แน่นหนาขึ้น" เมื่อพูดถึงรายละเอียดของการฝึกอบรมที่บาเลนเซียณัฐพงษ์เล่าให้ฟังว่า "การฝึกนี้หนักหน่วงมากทีเดียว แต่ว่ามันเป็นพื้น ฐานสำหรับผู้ที่มุ่งมั่นจะเป็นนักขับรถยนต์ฟอร์มูล่า ระดับสูงในอนาคต คอร์สของการฝึกอบรมนี้ ไม่เพียงแต่ฝึกทักษะการขับขี่ แต่ว่ายังรวมไปถึง ความรู้ทางเทคนิคของรถ ฟอร์มูล่า การฝึกซ้อมฟิตร่างกายหรือแม้แต่หลักโภชนาการในการกินอาหารด้วย"
ณัฐพงษ์ย้ำว่า "สำหรับนักแข่งฟอร์มูล่า แล้ว สภาพร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อผลงานในการขับขี่ครับ แต่ว่าโรงเรียนที่บาเลนเซีย ยังผนวกคอร์สเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ และการประชาสัมพันธ์เข้าไปด้วย" เมื่อเราถามว่าทำไมน่ะหรือ? ณัฐพงษ์ให้เหตุผลว่า "การจะเป็นนักแข่งระดับนานา ชาตินั้น เราต้องใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว และขณะเดียวกัน คุณต้องวางตัวให้เหมาะ สมต่อหน้าสื่อมวลชนอีกด้วยครับ"
ถึงแม้ว่า ณัฐพงษ์ จะประสบความสำเร็จมาบ้างแล้ว บนเส้นทาง การแข่งขันก่อนหน้านี้ แต่เขาย้ำว่า "ผมยังไม่คาดหวังว่าผมจะจบซีซั่นนี้ด้วย การขึ้นโพเดียมเป็นอันดับหนึ่งถึงสามหรอกนะครับ สำหรับผมแล้วฤดูกาลแรกกับ ทัวร์นาเม้นต์ที่มีการแข่งขันสูงอย่าง Formula BMW Asia นั้น คือช่วงที่เราจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การขับรถที่นั่งเดี่ยวในระดับนานาชาติมากกว่าครับ"
อย่างไรก็ดี ณัฐพงษ์ แสดงออกซึ่งความมุ่งมั่นในการสร้างผลงานดีๆ ในการแข่งขันที่คืบคลานเข้ามาถึง "ผมหวังว่าจะสร้างผลงานที่ดีได้ ในการแข่งขันที่สนามบ้านเกิดในไทย ที่สนามพีระเซอร์กิตครับ แต่ตอนนี้ต้องโฟกัสไปที่ สนามหน้าที่ยะโฮร์เสียก่อน"
สำหรับจุดประสงค์ที่ณัฐพงษ์มุ่งหวัง ทำให้ดีที่สุดในสองสนามนี้ เขาเผยสาเหตุว่า "เพราะหากคนไทยสามารถทำได้ดีในกีฬาประเภทนี้แล้ว ผมเชื่อว่าจะทำให้เยาวชนและสาธารณชน ให้ความสนใจกับกีฬาประ เภทนี้มากขึ้น ณะนี้ความนิยมของกีฬาประเภทนี้ในเมืองไทยนั้นยังจำกัด อยู่มาก หากเทียบกับในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือแม้แต่เพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย แต่ผมมั่นใจว่ามันกำลังจะเติบโตขึ้น"
"ผมชื่นชมแผนกมอเตอร์สปอร์ตของ บีเอ็มดับเบิลยู ที่ยอมลงทุน กับนักแข่งเยาวชนอย่างพวกเรา เพื่อโปรโมตให้กีฬามอเตอร์สปอร์ตเป็น ที่นิยมในภูมิภาค นักแข่งอายุน้อยอย่างพวกเรา จำเป็นจะต้องได้รับการ สนับสนุน ในเรื่องของโอกาส และแนวโน้มต่ออาชีพรถแข่งในอนาคต นี่ไม่ได้พูดถึงเฉพาะตัวผมเองเท่านั้นนะ แต่หมายถึงโดยทั่วไปด้วย ลองคิดดูแล้วกันหากอนาคต เรามีนักแข่งฟอร์มูล่าวันเป็นชาวเอเชียสักคน คนในภูมิภาคเราจะกะตือรือร้นกับกีฬาประเภทนี้มากขนาดไหน"
"ตัวอย่างที่ห็นได้ คือ นักเทนนิสที่โดดเด่นอย่าง ภราดร และ แทมมี่ พวกเขาทั้งช่วยเป็นแรงดลใจให้ เยาวชนของเราหันมาเล่นกีฬาเทนนิสกันมากยิ่งขึ้น บอกตรงๆ หากผมไม่เป็นนักแข่งรถฟอร์มูล่าแล้ว ล่ะก็ ป่านนี้ผมคงจะฝึกซ้อมเทนนิสอย่างเอาเป็นเอาตายแล้วล่ะ"
ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ นับเป็นคนหนุ่มที่มีไฟจริงๆ และเขายังมีไฟในการที่จะปลุกเร้าให้เพื่อนร่วมชาติ ได้แสดงศักยภาพของตนเองออกมาในทางที่สร้างสรรค์ด้วย
///////////////////////////////
ขอบคุณที่มา : ผู้จัดการออนไลน์